แต่ Casual Chrono ขอหยิบนาฬิกาที่น่าสนใจที่สุดในปีนี้มา 5 เรือน โดยเลือกจากหลายๆเหตุผล เช่นผลกระทบของนาฬิกาที่มีต่อตลาด ดีไซน์หรือเทคโนโลยีที่มีเอกลักษณ์ ความคุ้มค่า และความชอบส่วนตัวของแอดเอง :-P
1. Omega × Swatch Speedmaster MoonSwatch
เรียกได้ว่าน่าจะเป็นนาฬิกาที่โดน Hype ที่สุดของปีเลยทีเดียว สร้างปรากฎการณ์ห้างแตกทุกประเทศ กับ Moonswatch นาฬิกาที่มีการผสมผสานดีไซน์สุดไอคอนิคจาก Omega Speedmaster แต่เติมความสนุกและสีสันสดใสในแบบ Swatch
มาในราคาป้ายที่เอื้อมถึงกันได้ที่ 8,900 บาท แต่ในช่วงแรกๆที่นาฬิกายังผลิตออกมาไม่มาก มีราคาที่รีเซลกันในตลาดสูงกว่าหลายหมื่นบาทเลยทีเดียว ตัวนาฬิกาผลิตมาจาก BioCeramic กลไก Quartz มีฟังค์ชั่น Chronograph จับเวลา และขนาด 42มม. เช่นเดียวกับ Speedmaster
ถือว่าเป็นนาฬิกาที่ทำให้คนทั่วไปหันมาสนใจนาฬิกาเลยทีเดียว โดยเฉพาะ แบรนด์ Swatch ซึ่งก็ได้กลับมาอยู่ในนาฬิกากระแสหลักอีกครั้ง หลังจากเงียบหายไปนาน
-----------------------------
2. Grand Seiko Kodo Constant-force Tourbillon (SLGT003)
เรือนนี้ถูกจริตแอดเป็นอย่างมาก ทั้งดีไซน์และกลไกภายใน ชื่อ Kodo มาจากภาษาญี่ปุ่น 'การเต้นของหัวใจ' เช่นเดียวกับเสียงของกลไกที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวเรือนทำมาจากทั้ง Platinum และ Titanium ขัดแต่งแบบ Zaratsu ที่คมชัดยันเงาสะท้อน
กลไก 9ST1เป็นครั้งแรกในโลกที่รวบ Tourbillon และ Constant-force mechanism เป็นตัวเดียวในแกนเดียวกัน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและความแม่นยำเป็นอย่างสูง
ธีมการออกแบบเป็นการสะท้อนของชีวิตในย่านกินซ่าของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ตั้งของสตูดิโอนาฬิกาใหม่ของแบรนด์ ผลิตจำนวนจำกัดเพียงแค่ 20เรือนเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 14.5 ล้านบาท
-----------------------------
3. MB&F M.A.D.1
MB&F เป็นนาฬิกาเจ้าของรางวัลใหญ่จากงาน GPHG 2022 แต่ด้วยราคากว่า 172'000 CHF หรือประมาณ 6.3 ล้านบาท นั่นน่าจะทำให้การเป็นเจ้าของเรือนนี้เป็นไปได้ยากมาก แต่ถ้าหากด้วยเงินเพียงประมาณ 100,000 บาท คุณก็สามารถเป็นเจ้าของ MB&F ได้ คุณจะรับมั้ย?
ตัวเรือนยังคงมีดีไซน์ที่ Avant-garde แต่ที่ราคาลดลงมาหลายระดับเพราะ MB&F ใช้กลไลสหกรณ์อย่าง Miyota แต่มีการปรับปรุงอย่างมากจนแทบจำไม่ได้ วิธีการบอกเวลาก็ไม่เหมือนใคร เพราะจะบอกเวลาที่วงรอบขอบของตัวนาฬิกา เป็นเลขสองแถว ชั่วโมงและเวลา
บนหน้าปัดจะเป็นโรเตอร์เรืองแสงที่เท่ไม่เหมือนใคร แต่ที่น่าเสียดายคือเรือนนี้ใครจะเป็นเจ้าของได้ต้องไปสุ่มล๊อตเตอรรี่เอา
-----------------------------
4. Rolex GMT-Master II (126720VTNR) “Destro”
Rolex ยังคงเป็นแบรนด์ที่สร้างกระแสและแรงกระเพื่อมในตลาดอยู่เสมอ ถึงจะได้รับคำวิจารณ์เรื่องเทคโนโลยี และดีไซน์ที่มีการปรับปรุงในระดับที่เชื่องช้า แต่นั่นไม่ได้ทำให้ราคารีเซลหรือตลาดตอบสนองต่อของนาฬิกา Rolex น้อยลงเลย
Rolex GMT-Master II เป็นนาฬิกาสำหรับคนถนัดซ้าย (Destro) จาก Rolex โดยในยุค 50s Rolex เคยทำนาฬิกาGMTสำหรับคนถนัดซ้ายมาก่อน (GMT Master 6542) โดยช่องวันที่ Cyclop และเม็ดมะยมต่างก็ถูกย้ายตำแหน่งมาที่3นาฬิกา ขอบหน้าปัดมาในสีที่กำลังฮอทสุดๆคือสีเขียว แต่เอกลักษณ์ของGMT คือขอบหน้าปัดสองสี ดำ/เขียว ที่เรียกชื่อเล่นว่า 'Sprite'
กลไกอัตโนมัติที่ใช้ยังเป็น Calibre 3285 ที่สำรองพลังงานได้ 70 ชม. มาพร้อมฟังชั่น GMT บอกเวลาได้ 3 Time zone ผ่านเข็มทั้ง4เข็มบนหน้าปัด ตัวเรือนสตีลลขนาด 40 มม. ราคา 391,600 บาท สำหรับสาย Oyster และ 399,100 บาทสำหรับสาย Jubilee
-----------------------------
5. Patek Philippe Nautilus 5811/1G
ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า Nautilus 5711 เป็นเรือนที่ทำให้ราคารีเซลในตลาดนาฬิกาพุ่งทะลุไปดวงจันทร์ในช่วงปีที่ผ่านๆมา แต่ก็เป็นเรือนที่มี ประวัติ และดีไซน์ที่น่าจดจำจริงๆ โดยหลังจากมีการประกาศ Discon ไปทุกสายตาก็จับจ้องว่าตัวตายตัวแทนจะมาเมื่อไร
ในที่สุด Patek ก็เปิดตัว Nautilus 5811/1G ในปี 2022 มากับตัวเรือน White Gold จากที่รุ่นก่อนเป็น Steel และมีขนาดใหม่ 41มม. ซึ่งใหญ่กว่าเดิม 1มม. แต่ความหนายังคงเดิมที่ 8.3 มม. สาย Bracelet มีการปรับปรุงใหม่ให้สามารถปรับขนาด Micro adjustment ได้ราวๆ 2-4 มม.
กลไกยังคงเป็น Caliber 26-330 S C ซึ่งใช้มาตั้งแต่รุ่น 5711 ในปี 2019 และยังคงกันน้ำได้ 120 ม. ทั้งนี้ Patek Philippe Nautilus 5811/1G มีราคาป้ายอยู่ที่ $69,785 หรือประมาณ 2.65 ล้านบาท
