ปี2020เรียกได้ว่าเป็นปีที่เราอยากให้ผ่านไปเร็วๆซะที
(แล้วตอนนี้ก็ใกล้หมดปีแล้ว) เพราะอุดมไปด้วยเรื่องน่าปวดหัวโดยเฉพาะการระบาดของไวรัส COVID-19
แต่สำหรับวงการนาฬิกาแล้วก็เรียกว่าสามารถปรับตัวได้ดี จากงานแสดงนาฬิการะดับโลกที่มักจัดตามเมืองใหญ่ๆ
ก็เปลี่ยนมาเป็นการเปิดตัวนาฬิกาแบบออนไลน์ และในปีนี้ก็มีนาฬิกาหลายเรือนที่หลังจากเปิดตัวแล้วก็ฮิตติดตลาดจนไม่น่าเชื่อ
วันนี้ Casual Chrono จะพาย้อนไปดูในปี2020ที่ผ่านมาว่า มีนาฬิกาเรือนไหนบ้างที่กำลังเป็นที่พูดถึงในบ้านเรา
บางเรือน waiting list ชื่อเราอาจจะส่งต่อให้ยันรุ่นลูกได้เลย
แต่มีเทรนหนึ่งที่สังเกตุได้จากนาฬิกาเหล่านี้นั่นก็คือ นาฬิกาสปอร์ท ยังคงเป็นที่นิยมอย่างมาก
และในปีหน้า2021ก็คาดว่าจะยังคงได้รับความนิยมต่อไป
1. Rolex Oyster Perpetual
จากนาฬิการุ่น entry
level ที่แต่ก่อนถ้าใครอยากได้ Rolex รุ่นฮิตๆอาจจะต้องซื้อ
Oyster Perpetual พ่วงสักหน่อย แต่ใครจะเชื่อว่าวันนี้ Oyster Perpetual บางสีราคาตลาดพุ่งไปเกิน
300,000 บาทแล้ว!
แถมใครอยากได้ราคาป้ายก็คงต้องสะสมยอดกับ
AD หรือพ่วงกันกระจาย (เช่นสีเขียวและสีฟ้า Tiffany Blue ที่ตอนนี้คนตามหากันสุดๆ)
Oyster Perpetual ที่พึ่งเปิดตัวไปในปี2020 มาพร้อมสีพาสเทลด้านๆ ออกวินเทจๆ เรียกความสนใจจากนักสะสมไปทั่วโลก รุ่นนี้มีให้เลือก3ขนาด 31/36/41มม. (จริงๆก็เหมาะที่จะหามาเป็นนาฬิกาใส่คู่กับคนรักอยู่นะ) และได้รับการอัพเกรดกลไกแบบใหม่ 3230 ที่สำรองพลังงานได้ถึง70ชั่วโมง ความจริงแล้วจะเรียกเรือนนี้ว่ารุ่นนี้เป็น Core DNA ของ Rolex เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นรุ่นแจ้งเกิดของแบรนด์ที่สามารถผลิตนาฬิกาข้อมือกันน้ำเรือนแรกของโลกในรุ่น Oyster เมื่อปี1926
/// รายละเอียด
Rolex Oyster Perpetual (124300)
วัสดุ: สแตนเลส สตีล
ขอบหน้าปัด: สแตนเลส สตีล
ขนาด: 41 มม.
กันน้ำ: 100 ม.
กระจก: แซฟไฟร์
กลไก: 3230 (อัตโนมัติ)
สำรองพลังงาน: 70 ชม.
ราคาประมาณ: 201,600
บาท
Speedmaster นั้นมีรุ่น
limited edition ออกมาบ่อยมากจนเกินจะนับได้
แต่จะมีเพียงไม่กี่รุ่นที่ราคาซื้อขายในตลาดพุ่งไปไกลว่าราคาป้าย เรือนนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนั้น
เพราะถ้าอยากจะเป็นเจ้าของก็ต้องมียอดสะสมกับ AD กันสักหน่อย (ชวนให้นึกถึง Rolex ขึ้นมา) โดยก่อนหน้านี้
Speedmaster ก็เคยออกรุ่น Snoopy
มาแล้ว2ครั้ง นี่เป็นครั้งที่3
โดยรุ่นที่2ก็ได้รับความนิยมมากๆเช่นกัน
Speedmaster นั้นเป็นนาฬิกาที่เกี่ยวพันกับการสำรวจอวกาศและ
NASA โดย Silver
Snoopy รุ่นนี้
เป็นการฉลอง 50ปีของ รางวัล Snoopy Award จาก NASA
ในภารกิจช่วยนำนักบินอวกาศ Apollo
13 กลับมายังโลก รุ่นปี2020นี้ได้กลไกใหม่
3861 แบบ Co-axial ที่สร้างชื่อให้แบรนด์ มาพร้อมโทนสีน้ำเงิน/ขาว และมีลูกเล่นน่ารักๆที่ฝาหลังเพราะจะมี Snoopy
นั่งยานอวกาศขยับไปมา เวลาเรากดปุ่ม Chronograph
จับเวลา
/// รายละเอียด
Omega Speedmaster Silver Snoopy Award 50th Anniversary
วัสดุ: สแตนเลส สตีล
ขอบหน้าปัด: เซรามิค
ขนาด: 42 มม.
กันน้ำ: 50 ม.
กระจก: แซฟไฟร์
กลไก: 3861 (ไขลาน)
สำรองพลังงาน: 50 ชม.
ราคาประมาณ: 334,000 บาท
ส่งต่อความฮอตมาหลายปีกับนาฬิกาดำน้ำระดับตำนานจาก
Rolex ในที่สุดก็ออกรุ่นใหม่ปี
2020 ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่เอาจริงๆเราจะปรับความ iconic
ของ Submariner ได้เท่าไรกันเชียว ในการเปิดตัวครั้งนี้มี3สีที่น่าสนใจ สีดำแบบคลาสสิค, ขอบเขียวหน้าปัดดำ และ ขอบน้ำเงินหน้าปัดดำ
แต่สีที่หลายๆคนชื่นชอบก็คือ ขอบเขียวหน้าปัดดำ ที่เรียกชื่อเล่นรุ่นนี้ว่า New
Kermit, Cermit หรือ
Starbucks
ทว่าใครอยากเป็นเจ้าของก็คงต้องพ่วงกันหมดตัวหรือถ้าใครลงชื่อใส่ waiting
list ไว้ก็อาจจะส่งต่อ(Waiting list)ให้รุ่นลูกได้เลย
Submariner เป็นรุ่น iconic
สุดๆของ Rolex จะเรียกว่าเป็นต้นแบบของนาฬิกาดำน้ำให้กับนาฬิกาหลายๆเรือนก็ว่าได้
สำหรับ126610LV เรือนนี้มีการปรับปรุบงานดีไซน์เล็กน้อย
โดยหน้าปัดมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น41มม. สายนาฬิกากว้างขึ้นเป็น21มม.
ทั้งนี้ก็เพราะตลาดมีความต้องการนาฬิกาที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนกลไกก็อัพเกรดเป็น 3235
ที่สำรองพลังงานได้มากขึ้นเป็น70ชั่วโมง
/// รายละเอียด
Rolex Submariner (126610LV)
วัสดุ: สแตนเลส สตีล
ขอบหน้าปัด: เซรามิค
ขนาด: 41 มม.
กันน้ำ: 300 ม.
กระจก: แซฟไฟร์
กลไก: 3235 (อัตโนมัติ)
สำรองพลังงาน: 70 ชม.
ราคาประมาณ: 327,600 บาท
4. Tudor Black Bay Fifty-Eight Navy Blue
แบรนด์เครือญาติของ
Rolex ที่สามารถสร้าง
identity ของตัวเองได้สำเร็จ
และสร้างกระแสความร้อนแรงให้กับตลาดนาฬิกาดำน้ำด้วยคอลเลคชั่น Black Bay สำหรับปี2020 ได้เปิดตัว Black Bay Fifty-Eight
สีน้ำเงินที่สร้างแรงกระแสในหมู่นักสะสมนาฬิกาผ่านเฉดสีน้ำเงินและดีไซน์ของเรือนนี้
เพราะสีน้ำเงินก็ยังเป็นสีที่หลายๆคนชื่นชอบ
Black Bay นั้นเป็นคอลเลคชั่นที่อิงความวินเทจของนาฬิกา
Tudor ในอดีตอยู่เล็กน้อย
ไม่ว่าจะเป็นสายเหล็กแบบ Faux Rivet การใช้สีเหลืองอารมณ์
Faux patina ตกแต่งบนหน้าปัด
และกระจกหน้าปัดทรงโดม สิ่งที่ทำให้คนนิยมBlack Bay ก็คือความคุ้มค่าของสิ่งที่ได้ในราคาที่จ่าย สำหรับสี
Navy Blue รุ่นนี้หลักชั่วโมงและเข็มใช้สีอ่อนเพื่อให้ดูโมเดิร์นขึ้น
และใช้กลไกMT5402 ที่พัฒนาแบบ in-house
/// รายละเอียด
Tudor Black Bay Fifty-Eight Navy Blue (m79030b-0001)
วัสดุ: สแตนเลส สตีล
ขอบหน้าปัด: อลูมิเนียม
ขนาด: 39 มม.
กันน้ำ: 200 ม.
กระจก: แซฟไฟร์
กลไก: MT5402 (อัตโนมัติ)
สำรองพลังงาน: 70 ชม.
ราคาประมาณ: 127,800 บาท
5. Bvlgari Serpenti
เรือนนี้เป็นเรือนเดียวในลิสที่ไม่ได้เปิดตัวในปี2020
แต่ทว่ากลับได้รับความนิยมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หนึ่งในเหตุผลก็คือ ลิซ่า Blackpink
ใส่ Bvlgari Serpenti ไม่ว่าลิซ่าจะใส่อะไรหรือไปที่ไหน
สิ่งของหรือสถานที่นั้นๆก็จะฮิตแบบถล่มทะลายขึ้นมาทันที
โดยเรือนที่ลิซ่าใส่จะเป็นวัสดุสแตนเลสสตีล ตัวงูขดพันแขน1รอบ (ราคาไม่เกิน 200,000 บาท)
Serpenti นั้นเป็น collection
ที่เก่าแก่มากของ Bvlgari โดยมีมาตั้งแต่ปี1940 สิ่งที่ยังคงเอกลักษณ์มัดใจแฟชั่นนิสต้ามาจนถึงทุกวันนี้ก็คือดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากงู
วัสดุก็มีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น สตีล, ทูโทน 2กษัตริย์, โรส โกลด์, เซรามิค
ฯลฯ จะเลือกมาพันแขน1รอบไปจนถึง5รอบก็ได้
(ถ้า5รอบ ใส่ออกงานน่าจะเหมาะสุด)
และที่สำคัญสำหรับคุณผู้หญิงก็คือเลือกแบบฝังเพชรได้ อย่างเช่นรุ่นย่อยรหัส 103149ที่เลือกมานี้เรียกว่าจัดเต็ม ทั้งสาย2กษัตริย์ งูขด2รอบ และฝังเพชร จึงราคาค่อนข้างแรง
/// รายละเอียด
Bvlgari Serpenti (103149)
วัสดุ: สแตนเลส สตีล และ โรส โกลด์
ขอบหน้าปัด: ฝังเพชร
ขนาด: 35 มม.
กันน้ำ: 30 ม.
กระจก: แซฟไฟร์
กลไก: ควอตซ์
ราคาประมาณ: 667,000 บาท