21 ก.ค. 1969 Buzz Aldrin เป็นมนุษย์คนแรกที่เหยีบดวงจัทร์พร้อม Omega ที่ข้อมือ.... (อ่านต่อไปจะรู้ว่าทำไมไม่ใช่ Neil Armstrong)
แต่แรกเริ่มเดิมทีรุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับนักแข่งรถ เพราะมีฟังค์ชั่น Chronograph ไว้สำหรับจับเวลา
ทำไมต้อง Moonwatchฦ
NASA อวกาศ และ ดวงจันทร์
- ปี 1964 NASA ทดสอบนาฬิกา 4ยี่ห้อ (Omega, Rolex, Breitling,Longines)สำหรับโครงการอวกาศ ที่ต้องทนต่อสภาพแวดล้อมที่สุดขั้ว สดท้ายมีแค่ Omega ที่ผ่านการทดสอบ
- ปี1969 ในภารกิจ Apollo XI นาฬิกาบนยานอวกาศเสีย Neil Armstrong เลยต้องถอด Omega ตัวเองแขวนไว้บนยานเพื่อดูเวลา ก่อนที่จะออกมาเหยีบดวงจันทร์ เมื่อBuzz Aldrin ก้าวตามลงมา Omega speedmaster ก็กลายเป็น the fisrt watch worn on the moon
- ปี 1970 ภารกิจ Apollo XIII ถังอ๊อกซิเจนระเบิดทำให้นักบินอวกาศต้อง slingshot ยานอ้อม ดวงจันทร์เพื่อกลับมายังโลก แต่ต้องมีการปรับองศาในการนำยานลง เพราะถ้าดิ่งไปยานจะเสีดสีชั้นบรรยากาศจนไหม้ เลียบไปอาจจะหลุดออกไปอวกาศอีกแบบไม่ได้กลับ
ระบบต่างๆใช้การณ์ไม่ได้ นาฬิกาก็เช่นกัน เลยต้องใช้ Omega Speedmaster ในการจับเวลาจุดระเบิดเชื้อเพลิงเพื่อให้ยานกลับเข้าเส้นทางที่ถูก
- Speedmaster Professional รุ่นกระจก Hesalight ที่ขายอยู่ทุกวันนี้ยังคงได้รับการรับรองจาก NASA สำหรับภารกิจอวกาศ
NASA อวกาศ และ ดวงจันทร์
- ปี 1964 NASA ทดสอบนาฬิกา 4ยี่ห้อ (Omega, Rolex, Breitling,Longines)สำหรับโครงการอวกาศ ที่ต้องทนต่อสภาพแวดล้อมที่สุดขั้ว สดท้ายมีแค่ Omega ที่ผ่านการทดสอบ
- ปี1969 ในภารกิจ Apollo XI นาฬิกาบนยานอวกาศเสีย Neil Armstrong เลยต้องถอด Omega ตัวเองแขวนไว้บนยานเพื่อดูเวลา ก่อนที่จะออกมาเหยีบดวงจันทร์ เมื่อBuzz Aldrin ก้าวตามลงมา Omega speedmaster ก็กลายเป็น the fisrt watch worn on the moon
- ปี 1970 ภารกิจ Apollo XIII ถังอ๊อกซิเจนระเบิดทำให้นักบินอวกาศต้อง slingshot ยานอ้อม ดวงจันทร์เพื่อกลับมายังโลก แต่ต้องมีการปรับองศาในการนำยานลง เพราะถ้าดิ่งไปยานจะเสีดสีชั้นบรรยากาศจนไหม้ เลียบไปอาจจะหลุดออกไปอวกาศอีกแบบไม่ได้กลับ
ระบบต่างๆใช้การณ์ไม่ได้ นาฬิกาก็เช่นกัน เลยต้องใช้ Omega Speedmaster ในการจับเวลาจุดระเบิดเชื้อเพลิงเพื่อให้ยานกลับเข้าเส้นทางที่ถูก
- Speedmaster Professional รุ่นกระจก Hesalight ที่ขายอยู่ทุกวันนี้ยังคงได้รับการรับรองจาก NASA สำหรับภารกิจอวกาศ