Post Page Advertisement [Top]

นาฬิกาดำน้ำเป็นหนึ่งในประเภทของนาฬิกาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อาจจะด้วยความสะดวกในการสวมใส่ ที่ให้ความทะมัดทะแมง มีความทนทานต่อสิ่งรอบข้าง และที่สำคัญคือกันน้ำได้ทำให้ไม่ต้องคิดมากนักเวลาจะใส่ไปไหน แถมในปัจจุบันการเลือกใส่นาฬิกาดำน้ำยังสามารถแต่งตัวได้ง่ายเข้าได้กับทุกชุดอีกด้วย

สำหรับปีนี้ 2023 เป็นปีที่มีความสำคัญกับนาฬิกาดำน้ำหลายแบรนด์เลยทีเดียว เพราะเป็นปีครบรอบในเหตุการณ์สำคัญๆของแบรนด์ในประวัติศาสตร์การดำน้ำ ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์ก็ต้องทำนาฬิกาออกมาเพื่อเฉลิมฉลองเรื่องนี้ แต่เพียงแค่ประวัติศาสตร์อย่างเดียวอาจจะไม่ได้ทำให้นาฬิกาเรือนนั้นเข้ามาอยู่ในลิสนี้ได้

Casual chrono ได้เฝ้าดูนาฬิกามาตลอดทั้งปี แล้วจึงพิจารณาจากความใส่ใจในรายละเอียด ดีไซน์ของตัวนาฬิกา เรื่องราวที่มา และคุณภาพของงาน จึงได้เลือกมาทั้งหมด5เรือน นาฬิกาดำน้ำจาก 5แบรนด์ด้วยกัน โดยจะไม่เรียงลำดับกันใน 5เรือนนี้ ทุกเรือนที่เลือกมาตัวเรือนจะเป็นสตีลส่วนฝาหลังเป็นแบบทึบทั้งหมดเลย และมีราคาเริ่มต้นที่ 100,000 บาท

----------------------

Omega Seamaster Planet Ocean 6000M Ultra Deep 75th Anniversary
ปีนี้เป็นปีครบรอบ 75 ปี ของนาฬิกาคอลเลคชั่น Seamaster ของ Omega ในปี 1948 แบรนด์ได้เปิดตัวนาฬิกา Seamaster เรือนแรก และจนถึงทุกวันนี้ Seamaster ก็ยังอยู่ในคอลเลคชั่นของแบรนด์มาอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงยังมีการแตกไลน์แยกออกไปมากมายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของคนรักนาฬิกา เช่น Seamaster Diver 300M ที่ทุกคนรู้ดีว่ามันคือนาฬิกา James Bond ยุคใหม่
และในโอกาสครบรอบ75ปีนี้ทางแบรนด์ก็ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษ 75th anniversay "Summer Blue" ออกมาทั้งหมด7รุ่นย่อย ตามไลน์ของ Seamaster แต่เรือนที่เราคิดว่าน่าสนใจที่สุดคือ Omega Seamaster Planet Ocean 6000M Ultra Deep ด้วยดีไซน์ที่มีความโมเดิร์น ดูทันสมัยและสเปคที่เหลือกินเพราะกันน้ำได้ถึง 6,000เมตร!
ที่มาของเรือนนี้คือนาฬิกาที่ได้ไปร่วมกับการสำรวจจุดที่ลึกที่สุดใต้ท้องทะเลอย่าง Mariana Trench ในภารกิจ Five Deeps โดยได้ทำลายสถิติโลกด้วยการลงไปสำรวจในจุดที่ลึกที่สุดที่ 10,935 เมตร แต่ Planet Ocean 6000M เรือนนี้ได้มีการปรับให้มีขนาดและสเปคที่เหมาะกับการใช้งานชีวิตประจำวันมากขึ้น
ความพิเศษของรุ่น 75ปีนี้ คือหน้าปัดของเรือนนี้จะมีลูกเล่นอยู่โดยถ้าเอาไฟ uv มาส่องจะมองเห็นคำว่า "Omega Was Here, 10.935m" ซึ่งเป็นลูกเล่นไว้เล่าให้คนอื่นๆฟังถึงที่มาของเรือนนี้ ลายหน้าปัดก็จะดูมีความเป็น3D ลวดลายเหมือนใต้พื้นทะเลลึก พรายน้ำก็จะเป็นสีฟ้า กลมกลือนไปกับสีน้ำเงินเข้มของหน้าปัด ส่วนฝาหลังจะเป็นรูปเทพเจ้า Neptune และม้าน้ำ Hippocampus ที่เป็นสัญลักษณ์ของคอลเลคชั่นนี้

ตัวเรือนขนาดใหญ่ 45.5 มม. หนา 18.1 มม. กันน้ำได้ลึก 6,000ม. ใช้วัสดุพิเศษ o-Megasteel ที่มีความทนทานและมีสีสว่างกว่าเหล็กทั่วไป ส่วนขอบหน้าปัดเป็นเซรามิค กลไกอัตโนมัติ Caliber 8912สำรองพลังงานได้ 60 ชั่วโมง สนนราคาที่ 481,000บาท

----------------------

Rolex Submariner Date 126610LV
ปีนี้เป็นที่สำคัญของไอคอนแห่งนาฬิกาดำน้ำอย่าง Rolex Submariner ที่ครบรอบ 70ปี โดย Submariner เปิดตัวครั้งแรกในปี 1953 กับ ref.6204 และยังเป็นครั้งแรกของโลกที่นาฬิกาได้รับการรับรองว่ากันน้ำได้ถึง 100ม. (Blancpain Fifty Fathoms ในขณะนั้นได้รับการรับรองที่ 91.45 ม.) Submariner เป็นนาฬิกาดำน้ำที่เรียกได้ว่าได้กลายเป็น blueprint ให้กับนาฬิกาดำน้ำเรือนอื่นๆอีกมากมายและได้ขึ้นไปถึงระดับไอคอลแห่งความคลาสสิกเรียบร้อย นอกจากนั้นในช่วงปี 50กองทัพเรืออังกฤษยังเลือกใช้ Submariner อีกด้วย และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ James Bond ยุคนึงก็ใส่ Rolex เช่นกัน เพราะเขาก็เป็นทหารเรืออังกฤษ
ในปี 2023 นี้ทุกคนต่างเก็งกันว่า Rolex จะฉลองประวัติศาสตร์ของคอลเลคชั่นนี้อย่างยิ่งใหญ่เพียงไหน แต่ทว่าในงาน Watches & Wonders กลับมีเพียงการ soft launch รุ่น Submariner Date 126610LV โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยมากๆคือใช้สีเขียวที่มีโทนสว่างขึ้นกว่ารุ่นก่อนเพียงเท่านั้น จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ Rolex ได้ออก Submariner หน้าดำขอบเขียวมาก่อนโดยนักสะสมตั้งชื่อเล่นให้ว่า Starbucks พอปีนี้ก็ปรับสีของหน้าปัดใหม่ให้ใกล้เคียงกับรุ่นที่มีชื่อเล่นว่า Kermit ที่ตอนนั้นทำออกมาฉลองครบรอบ 50ปี
สำหรับเรือน Submariner ในรุ่นปัจจุบันได้มีการเปิดตัวในปี 2020 และเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ของรุ่นนี้โดยเป็นครั้งแรกที่ Submariner มีขนาดตัวเรือน 41 มม. (ก่อนหน้านี้จะมีขนาด 40มม. มาตลอด) และขาตัวเรือนมีขนาดเล็กลงต่างจาก maxi case รุ่นก่อน รวมถึงใช้กลไกอัตโนมัติใหม่ Caliber 3235 ที่สำรองพลังงานได้ถึง 70 ชั่วโมง ส่วนขอบหน้าปัดยังคงเป็นเซรามิค และตัวเรือนเป็น 904L steel ที่ทนทานกว่าเหล็กทั่วไปเช่นเดิม สนนราคาอยู่ที่ 390,500บาท

----------------------

Seiko SJE093
นาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของแบรนด์ Seiko คือรุ่น 62MAS ที่เปิดตัวในปี 1965 และได้ร่วมเดินทางไปกับคณะสำรวจแอนตาร์กติกญี่ปุ่นที่ได้ออกสำรวจขั้วโลกใต้ในปี 1966 62MAS รุ่นแรกนั้นมีระดับการกันน้ำที่ 150ม. ตัวเรือนขนาด 37มม. ส่วนดีไซน์นั้นก็ยังคงสืบถอดมาถึงหลายๆรุ่นต่อมา จนตอนนี้ Seiko ก็เป็นหนึ่งในนาฬิกาดำน้ำอันดับต้นๆที่ทุกคนนึกถึง และมีรุ่นย่อยมากมายที่คนไทยเราชื่นชอบไม่ว่าจะเป็น SKX, Samurai, Tuna, Turtle, Shogun, Monster
รุ่นออริจินัน 62MAS นั้นตอนนี้ราคาสูงขึ้นมากด้วยความที่นักสะสมต่างให้ความสนใจนาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของ Seiko แต่สำหรับเรือนนี้เป็นการ reissue ใหม่ ที่มีการอัพเกรดความพรีเมียมให้มากขึ้น มีการขัดแต่งงานในระดับพรีเมี่ยมเก็บรายละเอียดอย่างดี โดยมีขนาดตัวเรือนใกล้เคียงกับตัวออริจินันที่ 38 มม. ระดับการกันน้ำก็อยู่ที่ 200ม.
ดีไซน์ยังคงดีเอ็นเอจากรุ่นออริจินันอยู่ ใช้กระจกแซฟไฟส์ทรงโดม แต่มีกลไกอัตโนมัติใหม่ Caliber 6L37 ที่มีความบางมากขึ้น สำรองพลังงานได้ 45ชั่วโมง ฝาหลังยังคงรูปปลาโลมาเหมือนเช่นรุ่นเดิม
ทว่าเรือนนี้อาจจะหายากสักหน่อยเพราะผลิตสจำนวนจำกัดที่ 1,965 เรือน ตรงตามเลขปีที่เปิดตัวรุ่นนี้ สนนราคาที่ 462,000 เยน หรือประมาณ 120,000 บาท และจริงๆแล้ว Seiko เคยเปิดตัวรุ่น reissue ของ 62MAS มาหลายรุ่นแล้วเช่น SLA017, SLA037, SPB143 แต่ SJE093 เป็นตัวล่าสุดที่มีดีไซน์เหมือนรุ่นออริจินัลสูง

----------------------

Tudor Black Bay 54

Black bay 54 นั้นเป็นรุ่นที่อ้างอิงการดีไซน์มาจากนาฬิกาดำน้ำ Tudor Oyster Prince Submariner ref.7922 ที่เปิดตัวในปี 1954 อ่านไม่ผิดครับ Submariner เพราะตั้งใจออกมาเป็นนาฬิการุ่นน้องของ Rolex Submariner จริงๆโดยใช้เคสตัวเรือนจาก Rolex กันน้ำได้ 100ม.เหมือนกัน
ด้วยความที่มีดีไซน์อ้างอิงจากนาฬิกาช่วงปี 50 เรือนนี้จึงให้อารมณ์นาฬิกาดำน้ำวินเทจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดตัวเรือนที่วินเทจสุดๆที่ 37มม. หน้าปัดแบบ Gilt dial ที่ใช้สีทองตัดกับสีดำ กระจกหน้าเป็นแซฟไฟส์ทรงโดม สายเหล็กมีดีไซน์ให้เหมือนมีหมุดตามข้อต่อ
แต่เรือนนี้ก็ได้ใส่ดีเอ็นเอของ Tudor ยุคใหม่เข้าไปเช่นเข็มชั่วโมงแบบ Snowflake ที่ออกมามาให้อ่านเวลาได้ง่าย ลือกันว่าออกแบบตามความต้องการของกองทัพเรือฝรั่งเศส เรือนนี้ระดับการกันน้ำอยู่ที่ 200ม. กลไกอัตโนมัติ Calibre MT5400 สำรองพลังงานได้ 70ชั่วโมง สนนราคาอยู่ที่ 141,100บาท

----------------------

Longines Legend Diver 39mm
Longines ก็มีประวัติศาสตร์กับนาฬิกาดำน้ำที่ยาวนานมาตั้งแต่ปี 1959 นาฬิกาดำน้ำของแบรนด์ที่ได้เปิดตัวในปีนั้นคือนาฬิกาดำน้ำ ref. 7042 สไตล์ Super compressor (Super compressor นั้นเป็นนาฬิกาดำน้ำที่ออกแบบมาพิเศษคืออาศัยแรงกดของน้ำเพื่อทำให้ตัวเคสกดแน่นขึ้นกันน้ำได้ดีขึ้นตามความลึกที่เพิ่มขึ้น) มีเม็ดมะยมสองตำแหน่งมากับขนาดหน้าปัดที่ 42มม. ที่ต้องมีเม็ดมะยมสองอันเพราะอันนึงไว้ใช้ตั้งเวลาส่วนอีกอันไว้ใช้หมุนขอบหน้าปัดที่อยู่ใต้กระจกป้องกันไม่ให้บังเอิญไปหมุนโดน สำหรับการจับเวลาอยู่ใต้น้ำ
Legend Diver นั้นเปิดตัวมาเมื่อปี 2007 ซึ่งก็สร้างกระแสสำหรับคนรักนาฬิกาดำน้ำวินเทจได้เพราะไม่ใครเหมือน แต่ในปีนี้ 2023 แบรนด์ได้ปรับดีไซน์ใหม่โดยปรับขนาดใหม่เป็น 39มม. ซึ่งไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป และเอาช่องวันที่ออกไปทำให้หน้าปัดดูสมมมาตรขึ้น ส่วนสายเหล็กก๊มีความวินเทจด้วยสายแบบ Beads of Rice
หน้าปัดมีให้เลือกสองสี ระหว่างสีดำกับสีน้ำเงิน กระจกหน้าเป็นแซฟไฟส์ทรงโดม ฝาหลังสลักรูปนักดำน้ำเหมือนรุ่นออริจินัน กลไกอัตโนมัติ Calibre L888 สำรองพลังงานได้ 72ชั่วโมง กันน้ำได้ 300ม. สนนราคาอยู่ที่ 117,000 บาท

Bottom Ad [Post Page]