Post Page Advertisement [Top]

  

นาฬิกาดำน้ำเป็นนาฬิกาประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะดูสปอร์ท แข็งแรงความทนทาน และสามารถใส่ได้ทุกวัน เหมาะกับทุกสถานการณ์


วันนี้ Casual Chrono จะมาเปรียบเทียบนาฬิกาดำน้ำระดับหรูที่ถูกพูดถึงมากที่สุด2เรือน ได้แก่ Rolex Submariner รุ่นใหม่ซึ่งพึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2020 ที่ผ่านมา จับคู่กับ Omega Seamaster รุ่นล่าสุดซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2018


สำหรับ Rolex เราเลือกที่จะหยิบรุ่น Submariner Date (126610LN) สีดำ เพราะเป็นรุ่นยอดนิยมของคนไทย และ Seamaster Diver 300m (210.30.42.20.03.001) สีน้ำเงินจาก Omega เพราะเป็นสีเดียวกับที่ James Bond ใส่ในภาพยนตร์เมื่อปี 1993  ครั้งเปิดตัว ทั้ง2เรือนมีดีไซน์และคาแร็คเตอร์ที่แตกต่างกันมาก แต่เรือนไหนที่จะเหมาะกับคุณ เราลองมาหาคำตอบกัน

Rich heritage

ในเรื่องของประวัติความสำคัญคงปฎิเสธไม่ได้ว่า Rolex Submariner ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็น Icon ของนาฬิกาดำน้ำ โดยเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1953 และ Rolex ยังเป็นผู้บุกเบิกนาฬิกาข้อมือกันน้ำเรือนแรกของโลกอย่าง Oyster อีกด้วย Submariner นั้นได้รับการยอมรับจากนักสำรวจ และบุคคลผู้มีชื่อเสียงมากมาย และยังมีดีไซน์ที่คลาสสิกมาก ทั้งนี้รุ่นใหม่ก็ยังคง Design DNA ของรุ่น Original อย่างเต็มเปี่ยม


ทว่า Omega Seamaster ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเพราะ Seamaster เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1948 ก่อน Submariner เสียอีก ทว่าในตอนแรกดีไซน์จะเป็น Dress watch เรียบหรู ก่อนที่จะวิวัฒนาการมาเป็นนาฬิกาสปอร์ทดำน้ำ สำหรับดีไซน์ของ Seamaster Diver 300m เรือนนี้ เป็นนาฬิกาที่ออกมาคู่กับหนังสายลับ 007 ในช่วงปี 1993 นั่นทำให้ Seamaster กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง และการปรับโฉมครั้งใหญ่เมื่อปี2018 ก็ได้อัพเดทให้ดีไซน์ดูทันสมัยขึ้นมาก


Iconic design

ภาพจำของ Submariner คือ หน้าปัดสีดำ  เข็มแบบ Mercedes หลักชั่วโมงทรงกลม ยกเว้นตำแหน่ง 3,6,9 นาฬิกาจะเป็นแท่ง ส่วน 12 นาฬิกาเป็น สามเหลี่ยม ขอบหน้าปัดแบบ Knurled และสายเหล็ก Oyster 3ข้อต่อ


สำหรับรุ่นปี 2020 ตัวเรือนมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 41มม. แต่มีขาที่เล็กลง ส่วนช่องวันที่ตำแหน่ง3นาฬิกาใต้ช่องขยาย Cyclops ยังคงอยู่เช่นเดิม


สิ่งที่บ่งบอกความเป็น Seamaster คือ หน้าปัดลายคลื่น เข็มแบบ Skeletonized sword มี Helium escape valve ที่ตำแหน่ง 10นาฬิกา ขอบหน้าปัดแบบ Scalloped และสายเหล็กแบบ 5ข้อต่อ

สำหรับรุ่นใหม่ขอบหน้าปัดและหน้าปัดเป็นเซรามิค ซึ่งทนทานต่อรอยขีดข่วน ช่องวันที่ย้ายไปอยู่ตำแหน่ง 6นาฬิกา ตัวเรือนมีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิมเป็น 42มม. ฝาหลังเปลือยโชว์กลไกสวยงาม


Cutting edge technology

ทั้ง2เรือนเป็นนาฬิกาดำน้ำระดับ300เมตร ซึ่งเกินพอสำหรับชีวิตประจำวัน สำหรับ Omega มี Helium escape valve เพื่อระบายก๊าซ Helium ขณะกลับขึ้นสู่ผิวน้ำหลังจากอยู่ใต้น้ำเป็นระยะเวลาที่นานมากๆ เพราะ Helium จะมีการขยายตัวอย่างรุนแรงจนอาจะทำความเสียหายต่อตัวเรือนถ้าไม่มีการระบายออก  กลไกอัตโนมัติ 8800 แบบ Coaxial escapement ช่วยลดการสึกหรอ สำรองพลังงานได้ 55 ชั่วโมง


 Rolex นั้นเป็นผู้บุกเบิกนาฬิกาข้อมือดำน้ำ Submariner เมื่อครั้งเปิดตัวในปี1953 ได้ชื่อว่าเป็นนาฬิกาที่รับประกันระดับการกันน้ำถึง100เมตรเรือนแรกของโลก และในปี2005ก็เป็นแบรนด์แรกที่ใช้ขอบหน้าปัดแบบเซรามิค ตัวเรือนเป็นสเตนเลสสตีลเกรด 904L ทนทานต่อการกัดกร่อนกว่าเกรด 316L ทั่วไป รุ่นใหม่ใช้กลไกอัตโนมัติ 3235 สำรองพลังงานได้70ชั่วโมง

คุณสมบัติ

Submariner Date

Seamaster Diver 300M

วัสดุตัวเรือน

สเตนเลส สตีล

สเตนเลส สตีล

วัสดุขอบหน้าปัด

เซรามิค

เซรามิค

ขนาด

41 มม.

42 มม.

ระดับการกันน้ำ

300 ม.

300 ม.

Helium Escape Valve

ไม่มี

มี

กระจกน้าปัด

แซฟไฟร์

แซฟไฟร์

ฝาหลังโชว์กลไก

ไม่มี

มี

กลไก

Calibre 3235 (อัตโนมัติ)

Calibre 8800 (อัตโนมัติ)

สำรองพลังงาน

70 ชม.

55 ชม.

ปรับสายได้ด้วยตนเอง

Glidelock

Rack-and-Push

ปีที่เปิดตัว

2020

2018

ราคา

313,200 บาท

181,000 บาท


There is no wrong choice

ไม่ว่าคุณจะเลือกเรือนไหนก็เรียกได้ว่า ทั้งคู่ต่างเป็นตัวเลือกที่ดี ทว่าเมื่อเปรียบเทียบราคา และการที่จะหามาเป็นเจ้าของแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า Seamaster สามารถจับต้องได้ง่ายกว่า เพราะราคาอยู่ที่181,000บาท ในขณะที่ Submariner มีราคาสูงถึง313,200บาท อีกทั้งคุณสามารถที่จะเดินไปช๊อปของ Omega ตอนนี้แล้วกลับออกมาพร้อม Seamaster บนข้อมือได้เลย ในขณะที่ Submariner นั้นต้องใช้ความพยายามมากสักหน่อยกว่าที่คุณจะหามาครอบครองได้


หวังว่าทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาจะช่วยให้คุณหาคำตอบได้ว่าเรือนไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน เพราะนาฬิกาเป็นของที่คุณ Want ไม่ใช่ Need ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจจ่ายเงินขนาดนี้ เราควรไปลองนาฬิกาของจริงที่ช๊อปก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าเราชอบจริงๆ และนาฬิกาเรือนนั้นสามารถสะท้อนความเป็นตัวเราได้อย่างแท้จริง

Bottom Ad [Post Page]