ในบรรดานาฬิกาประเภทต่างๆที่ได้รับคำถามมาว่าเรือนไหนดี Dive watch หรือ นาฬิกาดำน้ำเป็นนาฬิกาที่คนรอบตัวถามถึงมากที่สุด
ด้วยว่าเป็น นาฬิกาที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน ใส่ได้ทุกสถานการณ์ สามารถที่จะเป็นนาฬิกาเพียงเรือนเดียวที่มีได้ ไม่ว่าจะไปเที่ยวลุยๆ หรือ เดินห้างสบายๆ แถมในปัจจุบันการใส่ dive watch กับสูทในงานทางการก็เป็นเรื่องที่ยอมรับกันมากขึ้น
สเปคที่มักได้ฟังมาคือ ต้องเป็นสายเหล็ก จะมีวันที่หรือไม่ก็ได้ กลไลออโตเมติก และกันน้ำได้สัก100-300ม. ก็พอ
วันนี้เลือกมา6เรือน จากช่วงราคาที่ค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่หมื่นต้นๆ ถึงหลายแสนบาท
- Rolex Submariner
- Omega Seamaster
- Tudor Black Bay
- Oris Aquis
- Tag Heuer Aquaracer
- Seiko Prospex
บางครั้งราคาอาจจะไม่ได้กำหนดมูลค่าที่เราให้กับนาฬิกาเรือนนึงๆ เท่ากับสิ่งที่นาฬิกาเรือนนั้นสะท้อนความเป็นตัวเรา สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักสะสม จึงมักจะแนะนำว่าให้เลือกเรือนที่เราชอบจริงๆ
ส่วนราคาโดยประมาณนั้นเป็นการอ้างอิงมาจากร้านค้า Dealer ในต่างประเทศ และอาจเปลี่ยนแปลงไปตามอัตราแลกเปลี่ยน
แต่จะซื้อที่ไหนคุ้มสุดลองอ่านโพสก่อนหน้านี้ว่า ซื้อนาฬิกาที่ไหนคุ้มสุด
ขาดไม่ได้เลยสำหรับเรือนนี้ เพราะขึ้นหิ้งระดับ iconic ไปแล้วกับ Submariner สามารถอ่านเพิ่มเติม10อันดับนาฬิกาสุดคลาสสิกระดับตำนาน
Submariner เป็นรุ่นที่ฮิตสุด และ สร้างชื่อให้กับ Rolex มากมาย แบะRolex เป็นแบรนด์ที่คิดค้นนาฬิกาข้อมือกันน้ำเรือนแรกของโลก
เปิดตัวตั้งแต่ปี 1954 ที่งาน Basel Watch Fair, Switzerland
ตัวเรือนขนาด40มม. ทำมาจากเหล็ก 904L ที่ Rolex หล่อเองให้ความทนทานกว่า stainless steel ทั่วไป
สายเหล็ก Oyster เฉพาะของ Rolex แข็งแรงทนทานสุดๆ
กลไก in-house เฉพาะของ Rolex Calibre3135 แบบออโตเมทิก ผ่านการทดสอบจาก Swiss Official Chronometer Testing Institute (COSC)
ขอบนาฬิกาผลิตจากเซรามิคหมดปัญหาเรื่องรอยขีดข่วน และจืดจางตามเวลา
ราคาโดยประมาณอยู่ที่ 250k+ สำหรับรุ่นที่ไม่มีวันที่ และ 300k+ สำหรับมีวันที่
Seamaster มีรุ่นย่อยมากมาย (Diver 300m, Planet Ocean, Aqua Terra) แต่ตัวที่ทำให้ Omega กลับมาฮิตคือ Diver 300m จาก หนังJames Bond
รุ่นนี้เป็น line ที่เก่าแก่ที่สุดที่ Omega ยังผลิตอยู่ เปิดตัวตั้งแต่ปี1948 และพึ่งจะได้รับการอัพเดท (2018) เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ด้วยเทคโนโลยี การออกแบบ และ วัสดุที่ดีขึ้น
ตัวเรือนขนาด42มม. ทำมาจาก stainless steel สายเหล็ก 5ลิงค์ เอกลักษณ์เฉพาะรุ่น 300m
ด้านหลังเป็นกระจก sapphire มองเห็นกลไก มี Helium Valve บนตัวเรือนที่ 10นาฬิกา สำหรับใช้งานกรณีดำน้ำลึก
หน้าปัด และ ขอบทำจากเซรามิคไร้กังวลเรื่องรอยขีดข่วน และจืดจางตามเวลา และบนหน้าปัดยังยิงเลเซอร์ลายคลื่น เหมือนรุ่น original อีกด้วย
กลไกออโตเมติกแบบ in-house ของตัวเอง Calibre 8800 ผ่านการรับรอง Master Chronometer จาก METAS พร้อม Co-Axial escapement ช่วยลดการสึกหรอของกลไก
สนนราคาเริ่มต้นที่ 90K+ สำหรับรุ่นก่อนอัพเดท และ 130k+ สำหรับตัวล่าสุด
Black Bay เป็นรุ่น icon ของ Tudor แบรนด์พี่น้องกับ Rolex
เปิดตัวในงาน Basel World 2012 โดยอ้างอิงการออกแบบจากนาฬิกาดำน้ำรุ่นปี1950
เนื่องจากได้รับความนิยมมาก Black Bay จึงมีรุ่นย่อยแตกออกมาเยอะมาก แต่ที่น่าสนใจสุดคงจะเป็น GMT ขอบ Pepsi
ตัวเรือนขนาด41มม ทำมาจาก stainless steel ส่วนขอบสีแดงแบบรุ่น original เป็น aluminium สีด้าน
กลไกออโตเมติก in-house ออกแบบเอง Calibre MT5602 ผ่านการทดสอบจาก Swiss Official Chronometer Testing Institute (COSC) และ สำรองพลังงานได้กว่า70ชั่วโมง ซึ่งเยอะกว่าปกติมาก
กระจกหน้าปัดเป็น sapphire ทรงโดม และ เม็ดมะยมขนาดใหญ่สไตล์ vintage สายเหล็กแบบ rivet หัวหมุดย้ำ
ค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 90K+
Oris เป็นแบรนด์ที่มีความอินดี้มาก ถ้าลองสังเกตุจะเห็นว่าเข็มหน้าปัดนาฬิกาจะอยู่ที่เลข8กับ11 ต่างจากทุกเรือนในรูปรวม6เรือน
(เวลาถ่ายรูปนาฬิกาเพื่อโฆษณาปกติแล้วจะจัดเข็มให้อยู่ที่เลข10กับ2เพื่อไม่ให้บัง logo)
เอกลักษณ์ของนาฬิกา Oris ที่คุ้นเคยคือต้องเป็นกลไกออโตเมติก มาพร้อมโรเตอร์สีแดง และยังเป็นแบรนด์ที่คิดค้นมาตรวัดความลึก(ระดับน้ำ)สำหรับนาฬิกาข้อมืออีกด้วย
นาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของ Oris เปิดตัวในปี1965
รุ่นนี้ได้รับการอัพเดทเมื่อปี2017 ด้วยวัสดุที่ดีกว่าเดิม
ตัวเรือนขนาด43.5มม ผลิตจาก stainless steel หน้าปัดลายไล่สีแบบ sun burst
ขอบทำมาจากวัสดุที่ดีกว่าเดิมอย่างเซรามิค กระจกหน้า sapphire ทรงโค้ง ส่วนด้านหลังเป็น mineral glass มองเห็นกลไก
สายเหล็กมีหัวต่อเฉพาะตัว ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนไปใส่กับสายทั่วไปได้
กลไกแบบออโตเมติก Calibre733 อ้างอิงจากกลไก Sellita รุ่น SW 200-1
Sellita เป็นบริษัทรับผลิตกลไกของ Switzerland เคยเป็น supplierให้ ETA มาก่อน
ราคาเริ่มต้นที่ 50K+
ต้นกำเนิดของนาฬิกาดำน้ำจาก Tag Heuer เริ่มต้นปี 1979 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทกำลังประสบปัญหาทางธุรกิจ ยุคนั้นแบรนด์เน้นที่นาฬิากา Racing สำหรับสนามแข่งรถ แต่ด้วยวิกกฤตแร่ Quartz ทำให้ต้องขยายตลาดสู่นาฬิกาดำน้ำ
ปรากฎว่า Diver Professional ที่เปิดตัวได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี และปัจจุบันใช้ชื่อรุ่นว่า Aquaracer ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี2004
ตัวเรือนขนาด41มม. และสายเหล็ก ผลิตจาก stainless steel หน้าปัดกระจก sapphire ขอบเป็น Ceramic
กลไกแบบออโตเมติก Calibre 5 อ้างอิงจากกลไก ETA รุ่น 2824-2
ETA (เอ๊ตต้า) เป็นบริษัทรับผลิตกลไกของ Switzerland ในเครือของ Swatch
รุ่นนี้เริ่มต้นที่ 50K+
Seiko เป็นนาฬิกาดำน้ำที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง คุณภาพดี ราคาไม่แพง
ในบ้านเรามีหลายรุ่นที่นิยม ทั้ง Monster, Sumo, Samurai แต่ตัวที่นิยมที่สุดคือรุ่น Sumo ชื่อเหล่านี้เป็นชื่อเล่นเพราะแบรนด์นี้มีรหัสรุ่นที่ยาวมาก เช่น Sumoในรูป คือ Prospex SBDC031
Prospex เป็น line ที่ได้รับการ rebrand ขึ้นมาในปี2014 เพื่อจับกลุ่ม นักดำน้ำ และ ผู้ที่นิยมกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ ส่วนนาฬิกาดำน้ำของ Seiko เรือนแรกเปิดตัวในปี1965
ตัวเรือนขนาดใหญ่45มม ทำจาก stainless steel ส่วนขอบเป็น aluminium
กระจกเป็น Hardlex glass ทรงโค้ง และจุดเด่นที่ตำแหน่งเม็ดมะยมอยู่ที่เลข4
กลไกin-house แบบออโตเมติก Calibre 6R15 ของ Seiko
ราคาไม่แพง เริ่มต้นแค่ 15K+
