Post Page Advertisement [Top]

10 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ Omega

เมื่อพูดถึงนาฬิกาสวิสอย่าง Omega หลายๆคนคงนึกถึงแบรนด์ที่เป็นคู่ปรับตลอดกาลของ Rolex และด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์ Omega ที่ให้ทั้งความ Luxurious, Sport, Rebellious จึงไม่แปลกที่เหล่าผู้มีชื่อเสียง ผู้นำโลก และ นักผจญภัยชื่อดัง ต่างเลือกหา

นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ การสำรวจของมนุษยชาติแล้ว ยังอยู่ใน Pop Culture ที่ยังคงมีอิทธิพลมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย

ทุกวันนี้ Omega อยู่ภายใต้ Swatch Group กลุ่มบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Omega Speedmaster Professional เป็นหนึ่งใน Icon ระดับตำนานของวงการนาฬิกา

นอกจากจะได้รับการรับรองจาก NASA สำหรับภารกิจสำรวจอวกาศแล้ว ยังเป็น First watch worn on the moon จนมีชื่อเล่นว่า Moonwatch ทั้งที่ในตอนแรกนาฬิการุ่นนี้ถูกออกแบบมาสำหรับสนามแข่งรถ

ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้มองเพียงแว๊บเดียว นักสะสมนาฬิกาก็คงดูออกว่าคือ Speedmaster
- หน้าปัดสีดำ จับเวลา3วง Chronograph
- ขอบมาตรวัดจับความเร็วแบบ Tachymetre
- ปกป้องเม็ดมะยมด้วย Crown Guard

1. ในการสำรวจดวงจันทร์ของ NASA ภารกิจอวกาศ Apollo XI 
Omega Speedmaster Professional เป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์ ในวันที่ 20 ก.ค. 1969

นักบินอวกาศ Buzz Aldrin เป็นผู้ใส่นาฬิกา Omega ลงเดินบนพื้นผิวดวงจันทร์ ส่วนนาฬิกาบนยานอวกาศ(Lunar Module)เสีย Neil Armstrong เลยต้องถอด Omega ของตัวเองแขวนไว้บนยาน

ในภาพยนตร์เรื่อง First Man ก็จะเห็น Omega Speedmaster Professional สวมใส่โดย Ryan Gosling ผู้รับบทนักบินอวกาศ Neil Armstrong

หมายเหตุ: รูปนี้ถ่ายโดย Neil Armstrong ขณะที่ Buzz Aldrin อยู่ใน Lunar Module


 
 2. Omega เป็น Partner กับหนังสายลับ James Bond - 007
ในเรื่อง Bond จะมี Gadget พิเศษๆ หนึ่งในนั้นคือ นาฬิกา Omega Seamaster

สายลับ 007 ในหนัง 2คนล่าสุด ต่างก็ใส่ Seamaster แต่เป็นคนละรุ่นกัน ได้แก่

- Pierce Brosnan (1995-2002): Golden Eye, Tomorrow Never Dies, The World is Not Enough, Die Another Day

ใส่ Omega Seamaster Diver 300M

- Daniel Craig (2006-Current): Casino Royale, Quantum of Solace, Skyfall, Spectre

ใส่ Omega Seamaster Planet Ocean 600M

หมายเหตุ: Seamaster เป็นนาฬิกา Dive Watch ออกแบบมาสำหรับนักดำน้ำ

3. Omega ยังถูกสวมใส่โดยผู้นำโลก2คน ที่ถูกจารึกชื่ออยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ จากทั้ง2ฝั่ง Super Power แห่งยุคสงครามเย็น

- John F. Kennedy, อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาผู้ทรงเสน่ห์ แต่จบชีวิตด้วยการถูกสังหาร
ใส่ Omega Ultra Thin

- Mikhail Gorbachev, อดีตประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียต และเป็นผู้นำคนสุดท้ายก่อนการล่มสลายของสหภาพโชเวียต
ใส่ Omega Constellation

4. เจ้าชาย William แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงใส่ Omega Seamaster ในวันพระราชพิธีเสกสมรสกับ Kate Middleton เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2011

ถึงแม้จะไม่มีภาพถ่ายออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ในระหว่างพระราชพิธีเสกสมรสก็ได้มีการกล่าวถึง Omega เรือนที่พระองค์ใส่

นอกจากนี้พระองค์ยังใส่ Omega เรือนนี้อยู่เป็นประจำอีกด้วย เล่ากันว่าเหตุผลที่ทรงเลือกใส่ Omega เรือนนี้เพราะเป็นของขวัญจากพระราชมารดา เจ้าหญิง Diana

 5. เมษายน 1968, Ralph Plaisted เป็นมนุษย์คนแรกที่เดินทางภาคพื้นไปยังขั้วโลกเหนือสำเร็จ

ตลอดช่วงเวลา43วันของการเดินทาง ผ่านระยะทางกว่า 663กม. ท่ามกลางอุณหภูมิ -40C เขาใช้เพียง เครื่องวัดแดด (Sextant) และ นาฬิกา Omega Speedmaster ในการนำทางเท่านั้น

6. ด้วยความแม่นยำระดับ1/10ของวินาที ทำให้ Omega ได้รับเลือกเป็น Official time keeper สำหรับการแข่งขัน Olympic ตั้งแต่ปี1932 ที่ Los Angeles, USA จนถึงปัจจุบัน

7. ระหว่างสงครามโลกครั้งที่2 Omega ผลิตนาฬิกาส่งให้กองทัพอังกฤษ และหลังจากสงครามจบลง แบรนด์ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะชื่อเสียงในเรื่องของคุณภาพ และความเที่ยงตรง โดยเฉพาะจากประสบการณ์ตรงของเหล่าทหารผ่านศึก

แผ่นพับโฆษณาOmegaหลังสงครามสิ้นสุดในปี1945 ก็ยังกล่าวไว้ว่ากว่าครึ่งของนาฬิกาที่ส่งให้กองทัพอากาศอังกฤษ (RAF) คือ Omega

ในภาพยนตร์เรื่อง Dunkirk ก็จะเห็น Omega CK2129 สวมใส่โดย Tom Hardy ผู้รับบท นักบิน Farrier

หมายเหตุ: Omega Seamaster รุ่นแรกๆอ้างอิงการออกแบบมาจากนาฬิกาเหล่านี้

8. ในปี 1964 NASA ได้ทำการทดสอบนาฬิกา 4ยี่ห้อ (Omega, Rolex, Breitling, Longines) สำหรับโครงการอวกาศ

นาฬิกาจากทั้ง4แบรนด์ต้องทนต่อสภาพแวดล้อมที่สุดขั้วในอวกาศ ด้วยการจำลองการทดสอบมากมายเช่น แรงกระแทก แรงเหวี่ยง ความชื้น การสั่นสะเทือน และ การเปลี่ยนอุณหภูมิอย่างเฉียบพลัน

ในท้ายที่สุดมีแค่ Omega Speedmaster Professional เท่านั้น ที่ผ่านการทดสอบ

หมายเหตุ: Speedmaster Professional รุ่นกระจก Hesalight ที่ขายอยู่ทุกวันนี้ยังคงได้รับการรับรองจาก NASA สำหรับภารกิวอวกาศ

9. Omega Speedmaster Professional ถูกพูดถึงอีกครั้งในปี 1970 กับภารกิจ Apollo XIII ของ NASA

ระหว่างการเดินทางในอวกาศไปยังดวงจันทร์ ถังอ๊อกซิเจนเกิดระเบิดขึ้น ทำให้นักบินอวกาศทั้ง3คนบนยานต้องเปลี่ยนแผน ด้วยการ slingshot ยานอ้อมดวงจันทร์เพื่อกลับมายังโลก

แต่ทว่าต้องมีการปรับองศาของเส้นโคจรในการนำยานกลับเข้าชั้นบรรยากาศ เพราะถ้าดิ่งเกินไปยานจะเสีดสีชั้นบรรยากาศจนไหม้ เลียบเกินไปอาจจะหลุดออกไปอวกาศอีกแบบไม่ได้กลับ

แถมระบบต่างๆก็ใช้การไม่ได้หลายอย่าง นาฬิกาก็เช่นกัน เลยต้องใช้ Omega Speedmaster ในการจับเวลา 14วินาที สำหรับจุดระเบิดเชื้อเพลิงเพื่อให้ปรับองศายานกลับเข้าเส้นโคจรที่ถูกต้อง

จากเหตุการณ์นี้ NASA ยังได้มอบรางวัล Silver Snoopy Award แก่ Omega สำหรับความสำเร็จที่โดดเด่นด้านความปลอดภัยทางการบิน หรือความสำเร็จของภารกิจ

ในภาพยนตร์เรื่อง Apollo13 ก็จะเห็น Omega Speedmaster Professional สวมใส่โดย Tom Hanks ผู้รับบทนักบินอวกาศ Jim Lovell

10. Louis Brandt ก่อตั้ง La Generale Watch Co ในปี1848 ณ เมือง ลาโช-เดอ-ฟง, สวิตเซอร์แลนด์ และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Omega ในปี 1903 นับถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 171ปีแล้ว 

Ω เป็นตัวอักษรสุดท้ายในภาษากรีกโบราณ มีความหมายว่า ความสมบูรณ์แบบ และ ความสำเร็จ

Bottom Ad [Post Page]